สายตาชำแลงเหลือบมอง จ้องใบประกาศ
คืนนี้เราไปเทศกาลงานวัดกันดีไหม?
แสงสี ที่ตระการตา มันตื่นตาตื่นใจ ให้ขนลุกชูชัน
อยากขึ้นชิงช้าสวรรค์ แล้วปาโป่ง ตกปลา คงน่าสำราญ
หัน ไปเจอม้าหมุน อยากเล่นสุดๆ ก็เลยวิ่งไป
แต่พอหัน กลับมาอีกครั้ง พ่อแม่ฉันหายไปแล้วตอนนี้
ฉันได้แต่ยืนสับสน น้ำตาร่วงหล่น มืดมนสิ้นดี
แต่สักพักคุณลุงท่าทางใจดี เดินตรงเข้ามาทางนี้ ฉันต้องทำอย่างไร
พ่อแม่ฉันสอนว่าอย่าคุยกับคนแปลกหน้า
แล้วนั่นลุงจะทำอะไร เขาหยิบมือฉันไปคว้า
ปากบอกว่าจะพาตัวฉันกลับบ้าน
มันไม่จริง! มันไม่จริง!
….. สุดท้ายก็เป็นขอทาน
ผ่านไปปีกว่า ฉันอยู่บนสะพานลอย
ยกมือไหว้หงอยๆ จิตใจบอบช้ำ
แต่มองเห็นผู้คน ที่เดินเข้ามากลุ่มใหญ่ ในหัวเริ่มคิดแผนการ
รอจังหวะประจวบเหมาะ แล้ววิ่งฝ่าผู้คน ไปจากตรงนี้
วิ่ง! ฉันวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต แม้ได้ยินสุ้มเสียงสิ่งใดที่อยู่ข้างหลัง
ฉันวิ่ง วิ่งไป โดยไม่สนปลายทาง ว่าจะเจอสิ่งใด
สุดท้ายก็ได้มาเจอกับเทศกาลงานวัดอีกครา
อดีตกาล ในรัตติกาล เป็นประสบการณ์ ในยามวิกาล เมื่อตอนที่ฉันถูกพรากลาจาก
ยังภาวนา ให้ปาฎิหารย์ ไม่เจือและจาง ไม่อันตธาน หายไปจากชีวิต
และในไม่ช้าก็ได้มาพบในเทศกาลในงานรื่นเริง ในงานบันเทิงอันแสนโศกนี้
คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย ความเป็นจริงไม่ใช่เลย คำเฉลยเหล่านั้น…
โอ… ช่างโศกา ช่างเวทนาเมื่อในสายตาที่พร่าจาง
สะท้อนเงา ไออุ่นที่มันช่างดูเยือกเย็น จากคนที่เคยเข้าใจว่าสวยงาม
เอิงเงย… กลับซีดจาง ถูกแทนด้วยความเข้าใจที่มันช่างโหดร้าย
โอ้...หัวใจ แตกสลาย โอว……..
กี่หมื่นล้านเศษความทรงจำที่เคยเก็บ ถูกรอยยิ้มแห่งความจริงขยี้จนแหลกเหลว
ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ เหตุใดน้ำตาจึงไหลริน
คืนนี้เราไปเทศกาลงานวัดกันดีไหม?
แสงสี ที่ตระการตา มันตื่นตาตื่นใจ ให้ขนลุกชูชัน
อยากขึ้นชิงช้าสวรรค์ แล้วปาโป่ง ตกปลา คงน่าสำราญ
หัน ไปเจอม้าหมุน อยากเล่นสุดๆ ก็เลยวิ่งไป
แต่พอหัน กลับมาอีกครั้ง พ่อแม่ฉันหายไปแล้วตอนนี้
ฉันได้แต่ยืนสับสน น้ำตาร่วงหล่น มืดมนสิ้นดี
แต่สักพักคุณลุงท่าทางใจดี เดินตรงเข้ามาทางนี้ ฉันต้องทำอย่างไร
พ่อแม่ฉันสอนว่าอย่าคุยกับคนแปลกหน้า
แล้วนั่นลุงจะทำอะไร เขาหยิบมือฉันไปคว้า
ปากบอกว่าจะพาตัวฉันกลับบ้าน
มันไม่จริง! มันไม่จริง!
….. สุดท้ายก็เป็นขอทาน
ผ่านไปปีกว่า ฉันอยู่บนสะพานลอย
ยกมือไหว้หงอยๆ จิตใจบอบช้ำ
แต่มองเห็นผู้คน ที่เดินเข้ามากลุ่มใหญ่ ในหัวเริ่มคิดแผนการ
รอจังหวะประจวบเหมาะ แล้ววิ่งฝ่าผู้คน ไปจากตรงนี้
วิ่ง! ฉันวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต แม้ได้ยินสุ้มเสียงสิ่งใดที่อยู่ข้างหลัง
ฉันวิ่ง วิ่งไป โดยไม่สนปลายทาง ว่าจะเจอสิ่งใด
สุดท้ายก็ได้มาเจอกับเทศกาลงานวัดอีกครา
อดีตกาล ในรัตติกาล เป็นประสบการณ์ ในยามวิกาล เมื่อตอนที่ฉันถูกพรากลาจาก
ยังภาวนา ให้ปาฎิหารย์ ไม่เจือและจาง ไม่อันตธาน หายไปจากชีวิต
และในไม่ช้าก็ได้มาพบในเทศกาลในงานรื่นเริง ในงานบันเทิงอันแสนโศกนี้
คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย ความเป็นจริงไม่ใช่เลย คำเฉลยเหล่านั้น…
โอ… ช่างโศกา ช่างเวทนาเมื่อในสายตาที่พร่าจาง
สะท้อนเงา ไออุ่นที่มันช่างดูเยือกเย็น จากคนที่เคยเข้าใจว่าสวยงาม
เอิงเงย… กลับซีดจาง ถูกแทนด้วยความเข้าใจที่มันช่างโหดร้าย
โอ้...หัวใจ แตกสลาย โอว……..
กี่หมื่นล้านเศษความทรงจำที่เคยเก็บ ถูกรอยยิ้มแห่งความจริงขยี้จนแหลกเหลว
ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ เหตุใดน้ำตาจึงไหลริน
( T3 x Bookiezz )
www.ChordsAZ.com